2 วิธีการเปิดแผลผ่าตัด “ศัลยกรรมตัดมุมกราม” และ “ตัดกราม V Line”
- การเปิดแผลภายในช่องปาก มีขั้นตอนดังนี้
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เปิดแผลภายในช่องปาก บริเวณหลังฟันกรามซี่สุดท้าย ความยาวประมาณ 3 – 5 ซม. ตามการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แยกเนื้อเยื่อภายในช่องปากบริเวณกระดูกกรามออกจากกัน
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ตัดกระดูกมุมกรามออกตามแผนการผ่าตัด
- หากในกรณีของผู้รับบริการที่ต้องการ ตัดกราม V Line ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำการตัดกระดูกตั้งแต่บริเวณมุมกราม ตลอดจนแนวกรามที่กางออก ให้มีโครงกระดูกกรามที่ดูเรียวยิ่งขึ้น
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เหลาตกแต่งกรามให้มีความโค้งตามความเหมาะสม และ เย็บปิดแผลภายในปากด้วยไหมละลาย
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เปิดแผลภายในช่องปาก บริเวณหลังฟันกรามซี่สุดท้าย ความยาวประมาณ 3 – 5 ซม. ตามการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- การเปิดแผลภายนอกช่องปาก โดยมีขั้นตอนดังนี้
-
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เปิดแผลบริเวณใกล้มุมกรามด้านนอก ความยาวประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว ตามการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แยกเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อออกจากกระดูกแนวกราม และ เลี่ยงเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เลี้ยงมุมปาก
- ตัดมุมกรามด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นเลื่อยขนาดเล็ก
- หากในกรณีของผู้รับบริการที่ต้องการ ตัดกราม V Line ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำการตัดกระดูกตั้งแต่บริเวณมุมกราม ตลอดจนแนวกรามที่กางออก ให้มีโครงกระดูกกรามที่ดูเรียวยิ่งขึ้น
- กรอกระดูกบริเวณที่ทำการผ่าตัดให้มีความโค้ง และ เรียบตามความเหมาะสม
- เย็บปิดแผลภายนอกช่องปาก โดยมีความยาวของแผลเย็บประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เปิดแผลบริเวณใกล้มุมกรามด้านนอก ความยาวประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว ตามการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อแตกต่าง “การเปิดแผลภายในช่องปาก” และ “การเปิดแผลภายนอกช่องปาก”
- การเปิดแผลผ่าตัดภายในช่องปาก จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทโดยรอบที่จะนำไปเลี้ยงมุมปาก
- การเปิดแผลนอกช่องปาก อาจปรากฏแผลอยู่บริเวณใต้มุมกราม แต่แผลจะค่อยๆจางลงได้เองภายใน 3 เดือน
- การเปิดแผลนอกจะมีอาการบวมน้อยกว่าการเปิดแผลภายในช่องปากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละท่านด้วย